fjrigjwwe9r0tb_Effect_Java:Head
fjrigjwwe9r0tb_Effect_Java:webhead
 
fjrigjwwe9r0tb_Effect_Java:StatusBar

วันที่แรก : หนองคาย-เวียงจันทร์-หลวงพระบาง

06.00 น. ยินดีต้อนรับสู่ จังหวัดหนองคาย (บริการอาหารเช้า 1) หลังอาหารผ่านพิธีการ ด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ผ่านด่านท่านาแล้งของลาวเข้าสู่ นครหลวงเวียงจันทน์ 
นำคณะเข้านมัสการ “พระธาตุหลวงเวียงจันทน์” ซึ่งได้อัญเชิญมาจากเมืองราชคฤห์ ประเทศอินเดีย ตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกัน พระธาตุพนม ในประเทศไทย นับเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ ต่อด้วยเก็บภาพที่ระลึกหน้า “ประตูชัย” เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคอมมิวนิสต์ลักษณสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลของประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสขึ้นบันไดไปชมทิวทัศน์ของนครเวียงจันทน์

12.00 น. รับประทานอาหารเที่ยง(มื้อที่2).หลังอาหารเข้าชม “หอพระแก้ว” อดีตเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต และนำท่านกราบไหว้ “เจ้าแม่ศรีเมือง” ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของศาลหลักเมือง ให้ท่านขอพร ศาลเจ้าแม่ศรีเมือง เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ซึ่งชาวลาวให้ความเคารพนับถือกันเป็นอย่างมาก

15.00 น. นำท่านเดินทางไปที่ สถานีรถไฟความเร็วสูงนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อรอขึ้นรถไฟฟ้า ไปเที่ยวหลวงพระบางใช้เวลาเดินทางประมาณ2ชม.

18.00 น. เดินทางถึง สถานีรถไฟหลวงพระบาง และเปลี่ยนเป็นรถตู้ เพื่อเดินทางเข้าสู่ตัว เมืองหลวงพระบาง บริการอาหารเย็น (มื้อที่ 3) หลังอาหารเดินเล่นชอปปิ้งสินค้าของฝากที่ “ตลาดมืด” หรือ ตลาดกลางคืน ถือเป็นแหล่งช็อปปิ้งแหล่งใหญ่ของนักท่องเที่ยวเนื่องจากจะมีพ่อค้าแม่ค้าชาวหลวงพระบางนำสินค้าของตนมาวางจำหน่ายอาทิ เช่น เสื้อยืดสกรีนภาษาลาว, เครื่องเงิน, ผ้าทอ, ผ้าห่ม,ปลอกหมอน, โคมไฟที่ทำจากกระดาษสา ฯลฯ เสร็จแล้วส่งคณะเข้าโรงแรมที่พัก..พักผ่อนตามอัธยาศัย..ราตรีสวัสดิ์

วันที่สอง : ตักบาตรข้าวเหนียว-ถ้ำติ่ง-น้ำตกตาดกวางสี-พระธาตุพูสี

05.30 น. อรุณสวัสดิ์ “ร่วมตักบาตรข้าวเหนียว” ประเพณีสืบทอดจากแก่นในจิตใจของชาวหลวงพระบาง และยังคงเป็นมนต์ตรา ที่ใครได้พบเห็นจะตราตรึงความเลื่อมใสด้วยใจบริสุทธิ์ที่แท้จริง  แสงพระอาทิตย์สีทอง กระทบจีวรเหลืองอร่ามเปล่งประกาย เรือนโบราณเป็นฉากหลัง  ต่อด้วยเดินชม ตลาดยามเช้าหลวงพระบาง ศึกษาวิถีชีวิตแบบเรียบง่ายของชาวหลวงพระบางที่ออกมาจับจ่ายซื้อของที่ตลาดตอนเช้า

07.00 น. รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 4)

09.00 น. เดินทางไปยัง หมู่บ้านช่างไห เพื่อนำท่าน “ลงเรือล่องแม่น้ำโขง” ไปเที่ยวชมความงาม ของ “ถ้ำติ่ง” ซึ่งเป็นถํ้าอยู่บนหน้าผาริมแม่นํ้าโขงมีอยู่ 2 ถํ้า คือ ถํ้าล่างและถํ้าบน
ถํ้าติ่งลุ่ม หรือ ถํ้าล่างสูง 60 เมตรจากพื้นนํ้า มีลักษณะเป็นโพรงนํ้าตื้นๆ มีหินงอกหินย้อย มีพระพุทธรูปไม้จำนวน 2,500 องค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพระยืน มีทั้งปางประทานพร และปางห้ามญาติ ถํ้าติ่งบน จะไปทางแยกซ้ายเดินขึ้นบันไดไป 218 ขั้น ปากถํ้าไม่ลึกมากมีพระพุทธรูปอยู่ในถํ้าแต่ไม่มากเท่าถํ้าล่างสมัยโบราณเป็นที่สักการะบวงสรวงดวงวิญญาณ ผีฟ้า ผีแถน เทวดาผาติ่ง ต่อมาพระเจ้าโพธิสารทรงเลื่อมใสพระพุทธศาสนาเป็นผู้นำพระพุทธรูปเข้ามา และจึงทรงใช้ถํ้าติ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนา 

12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 5) เสร็จแล้วออกเดินทางไปชมน้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง “น้ำตกตาดกวางซี” ห่างจากหลวงพระบาง 30 กิโลเมตร ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในเขตหลวงพระบาง ชมความงามของน้ำตกที่ตกลดหลั่นเป็นชั้น แต่ละชั้นเกิดจากการผสมของหินปูนสูงราว 70 เมตร มี 2 ชั้น มีสะพานและเส้นทางเดินชมรอบน้ำตก (ลูกค้าสามารถเล่นได้ อย่าลืมชุดไปเปลี่ยนด้วยนะครับ)

16.00 น. นำคณะเดินขึ้นบันได 328 ขั้น สู่ “ยอดดอยพูสี” ผ่านดงดอกจำปาลาวกลิ่นหอมให้คลายเหนื่อยถึงยอดดอย “สักการะพระธาตุพูสี” ที่เป็นทั้งหลักเมืองของหลวงพระบาง และยังเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมในอดีต พระธาตุแห่งนี้สร้างขึ้นบนภูเขาของฤๅษี มีอายุราว 227 ปี ด้านบนของพระธาตุมีจุดชมวิวเมืองที่สวยงาม บนจุดชมวิวแห่งนี้สามารถมองเห็นตัวราชธานีเก่า พระราชวังหลวงพระบาง อาคารบ้านเรือน แม่น้ำโขงและแม่น้ำคานที่ไหลผ่านโอบล้อมไปด้วยขุนเขาสมนามกล่าวขาน บ้านผาเมืองพูคู่อารยะธรรมล้านช้าง เวลาที่เหมาะแก่การขึ้นสักการะพระธาตุและถ่ายรูป-ชมวิว คือ หลังสี่โมงเย็นไปแล้ว เพราะอากาศจะเย็นสบาย ไม่ร้อนแดด ที่สำคัญยังเป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดของเมืองอีกด้วย

18.00 น.(รับประทานอาหารเย็น6) หลังอาหารเดินเล่นชอปปิ้งสินค้าของฝากที่ “ตลาดมืด” หรือ ตลาดกลางคืน ถือเป็นแหล่งช็อปปิ้งแหล่งใหญ่ของนักท่องเที่ยวเนื่องจากจะมีพ่อค้าแม่ค้าชาวหลวงพระบางนำสินค้าของตนมาวางจำหน่ายอาทิ เช่น เสื้อยืดสกรีนภาษาลาว, เครื่องเงิน, ผ้าทอ, ผ้าห่ม,ปลอกหมอน, โคมไฟที่ทำจากกระดาษสา ฯลฯ เสร็จแล้วส่งคณะเข้าโรงแรมที่พัก..พักผ่อนตามอัธยาศัย..ราตรีสวัสดิ์

วันที่ 3: หลวงพระบาง-วังเวียง

07.00 น. อรุณสวัสดิ์..(รับประทานอาหารเช้า 7 ณ ห้องอาหารของโรงแรม) หลังอาหารเข้าชม “หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ” เข้าชม “พระราชวังหลวง” สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2477 เพื่อเป็นที่ประทับของ เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส สร้างฐานซ้อนกันหลายชั้น หลังคามุงกระเบื้อง นับเป็นการผสมผสานความงดงามของตัวอาคารแบบฝรั่งเศสกับศิลปะแบบล้านช้างได้อย่างลงตัว เข้าชม “หอพระบาง” ภายในเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบาง พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบางและยังเป็นที่มาของชื่อเมืองหลวงพระบาง โดยพระบางหล่อขึ้นด้วยทองคำบริสุทธิ์เกือบทั้งองค์ น้ำหนักประมาณ 54 กิโลกรัม ลักษณะเป็นพระพุทธรูปศิลปะขอมสมัยบายนอยู่ในท่าประทับยืนปางประทานอภัย นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปปางนาคปรก ศิลปะขอมสลักศิลาอีก 4 องค์ และกลองโบราณอยู่ภายในหอด้วย ส่วนฝั่งตรงข้ามกับหอพระบางเป็นที่ตั้งของ อนุสาวรีเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ ผู้พระราชทานรัฐธรรมนูญแก่ปวงชนชาวลาว

จากนั้นเข้าชม  “วัดเชียงทอง” วัดเก่าแก่ที่สวยงามด้วยศิลปะแบบล้านช้าง หลังคาปีกนก 3 ชั้น สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช พ.ศ. 2102-2103 ภายในอุโบสถมีงานจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวในพระชาดกและนิทานพื้นบ้านสวยงาม.เก็บภาพแห่งความประทับใจ

12.00 น. (รับประทานอาหารเที่ยง 8) หลังอาหารนำคณะเดินทางไปยัง “สถานีรถไฟความเร็วสูง” ขบวนC81 เพื่อเดินทางสู่.เมืองวังเวียง

14.30 น. เดินทางถึง ”เมืองวังเวียง” รถตู้รอรับคณะที่สถานีรถไฟวังเวียง เมืองวังเวียง ดินแดนสุขาวดี มีธรรมชาติงดงามด้วยภูเขาหินปูนสูงชันตั้งเด่นตระหง่าน มีแม่น้ำซอง ที่ใสสะอาดไหลผ่าน อากาศเย็นสบาย เป็นสถานที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมาต่างให้สมญานามว่าเปรียบเสมือน“กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว”

15.30 น. เข้าชม ถ้ำปูคำ” บริเวณรอบหน้าถ้ำเป็นลำน้ำสีเขียวคราม เรียกว่า บลูลากูน” สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้พักผ่อนหย่อนใจ ภายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อย มีพระพุทธรูปปางนอน รวมถึงเข้าไปดูปูคำ มีระยะทางขึ้นถ้ำประมาณ 80 เมตร เป็นทางลาดชัน ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการขึ้นถ้ำปูคำ คนลาวเชื่อกันว่าคนที่เข้าไปภายในถ้ำแล้วเห็น ปูคำ ถือว่าโชคดี หรือมีบุญ เพราะน้อยคนที่จะได้เห็นปูคำ จะได้เห็นก็ช่วงวันสงกรานต์พระจะอันเชิญปูคำให้นักท่องเที่ยว หรือชาวบ้านได้เห็น หลังจากนั้นสามวันก็จะนำปูคำกลับไปในถ้ำอย่างเดิม

17.00น.ลูกค้าสามารถเดินเล่นถ่ายรูปเล่นน้ำ หรือร่วมเล่นกิจกรรมต่างๆได้ตามอัธยาศัย (ค่าใช้จ่ายส่วนต่างไม่รวมในแพคเก็จทัวร์) เช่น
*นั่งเรือหางยาวชมแม่น้าซอง 400 บาท/ลำ นั่ง 2 ท่าน
*พายเรือคายัก 450 บาท/ลำ
*ล่องห่วงยาง 450 บาท
*เช่ารถจักรยาน 50 บาท

19.00น.บริการอาหารเย็น (มื้อที่ 9).หลังอาหารเข้าเช็คอินโรงแรมที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย..ราตรีสวัสดิ์

วันที่สี่ : วังเวียง-เวียงจันทน์-หนองคาย

07.00น. อรุณสวัสดิ์ (รับประทานอาหารเช้า 10 ณ ห้องอาหารของโรงแรม) หลังอาหารเดินทางไปที่ สะพานแขวนสีน้ำเงิน ที่ข้ามผ่านแม่น้ำซอง เพื่อไปชม ถ้ำนางฟ้า ถ้ำแห่งนี้ถือเป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่สว่างไสวด้วยสปอตไลต์เจลซึ่งเต็มไปด้วยหินปูนขนาดใหญ่และมีหินย้อยตระการตาในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่เหมือนใคร เพลิดเพลินไปกับความน่าดึงดูดใจของหินงอกหินย้อยที่ซ่อนอยู่ในถ้ำแห่งนี้ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ นครหลวงเวียงจันทน์ ระยะทาง 150 กิโลเมตร
12.00 น. เดินทางถึง นครหลวงเวียงจันทน์ พักรับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่11)

14.00 น. เดินทางไปยังด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 หนองคาย ผ่านพิธีการข้ามด่าน

16.00 น. ส่งคณะที่ จังหวัดหนองคาย เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

 

**สิ่งที่ควรเตรียมไป - สัมภาระส่วนตัว เช่น เสื้อแขนยาว,ร่ม,หมวก,ครีมกันแดด,ยารักษาโรคประจำตัว,ของใช้ส่วนตัว,รองเท้าสวมใส่สบาย 

 

อัตรานี้รวม 

- รถไฟฟ้าความเร็วสูง ไป-กลับ

- รถนำเที่ยวตามรายการทัวร์

- โรงแรมที่พัก 3 คืน พัก 2 ท่าน/ห้อง

- อาหาร 11 มื้อ ตามที่ระบุไว้ 

- บริการน้ำดื่มตลอดการเดินทาง

- เอกสารและค่าธรรมเนียมผ่านแดน (ไม่รวมวีซ่าต่างชาติ)

- ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามที่ระบุไว้

- มัคคุเทศก์นำเที่ยวท้องถิ่น บรรยายภาษาไทย

- ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทาง 1,000,000 บาท/ค่ารักษาพยาบาล 500,000บาท ตามเงื่อนไขของบริษัทฯประกันภัย

 

หมายเหตุ : โปรแกรมอาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของเวลา เราจะถือเอาผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ 

www.tourlaos-pakse.com ทัวร์หลวงพระบาง,ทัวร์วังเวียง,ทัวร์เวียงจันทน์,ทัวร์หลวงพระบางด้วยรถไฟความเร็วสูง,ทัวร์วังเวียงด้วยรถไฟความเร็วสูง,ทัวร์ลาวด้วยรถไฟความเร็วสูง

 
   
   
©2013 by www.tourlaos-pakse.com

fjrigjwwe9r0tb_Effect_Java:webstat